close

16 มิ.ย. 2566

Sustainability Trend 2023 “เทรนด์ความยั่งยืน” เทรนด์แห่งปี ที่ผู้บริโภคพร้อมสนับสนุน

Business ESG Sustainability

Sustainability Trend 2023
“เทรนด์ความยั่งยืน” เทรนด์แห่งปี 2023

หากคุณคิดว่า Digital Transformation คือจุดเปลี่ยนของการทำธุรกิจ หรือ AI กำลังเข้ามามีบทบาทต่อการขับเคลื่อนองค์กร คุณอาจคิดถูก แต่คุณอาจยังคิดไม่ถึงว่าเทรนด์ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ และเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญอย่างมากคือ “เทรนด์ความยั่งยืน”

ในปี 2566 นี้ ความยั่งยืนจะแฝงอยู่ในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ เป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์แห่งอนาคต ทั้งเทรนด์เทคโนโลยี เทรนด์การตลาด หรือกระแสนิยมของผู้บริโภค จัดเป็น Global Trend มาแรงแห่งปีก็ว่าได้ ดังนั้นหากลองสังเกตนโยบายการขับเคลื่อนองค์กรของธุรกิจต่าง ๆ จะพบว่าในนโยบายของหลายบริษัทมักเกี่ยวข้องกับประเด็นความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พลังงานทางเลือก บรรจุภัณฑ์รักโลก และหลักการธรรมาภิบาลเสมอ

…………………
SCGC มุ่งสร้างนวัตกรรมตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ยกตัวอย่าง SCGC GREEN POLYMER™ ซึ่งเป็นนวัตกรรมพลาสติกที่คิดขึ้นเพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ครอบคลุม 4 โซลูชันตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน คือ Reduce การลดการใช้ทรัพยากร Recyclable การออกแบบเพื่อให้รีไซเคิลได้ Recycle การนำกลับมาใช้ใหม่ และ Renewable การทำให้ย่อยสลายได้ทางชีวภาพและการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน

ทำความรู้จักนวัตกรรมพลาสติกรีไซเคิล ที่หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่อย่างคุ้มค่า และโซลูชันจาก SCGC GREEN POLYMER™ คลิก
…………………

Sustainability Trend มองความยั่งยืนเป็นพื้นฐานธุรกิจ

บริษัทชั้นนำด้านการให้คำปรึกษาและการวิจัยหลายแห่งได้ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า “ความยั่งยืน” คือเทรนด์แห่งปี และเป็นโอกาสให้ธุรกิจที่ปรับตัวได้ก่อน สามารถทำกำไรได้สูงขึ้นจากการดำเนินงานตามหลัก ESG เป็นเครื่องการันตีว่าผู้บริโภคไม่ได้รักโลกเพียงแค่ในความคิด แต่ยังพร้อมสนับสนุนธุรกิจรักโลกอย่างจริงจัง


McKinsey & Company บริษัทให้คำปรึกษาระดับโลก ได้ร่วมมือกับ NielsenIQ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยทางการตลาด ได้ทำการสำรวจยอดขาย ณ จุดขายของสินค้าอุปโภคบริโภคกว่า 30 ชนิดที่ผู้บริโภคใช้จ่ายเป็นเงินเกือบครึ่งล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า สินค้าที่มีความเกี่ยวข้องกับ ESG (Environmental – Social – Governance) จะมียอดขายเฉลี่ย 5 ปี เติบโตขึ้นร้อยละ 6.4 ขณะที่สินค้าที่ไม่มีการระบุถึงการดำเนินการตามหลัก ESG ยอดขายเฉลี่ย 5 ปีจะเติบโตขึ้นเพียงร้อยละ 4.7 เท่านั้น


ด้านการ์ทเนอร์ (Gartner Inc.) บริษัทชั้นนำด้านการวิจัยและให้คำปรึกษามองว่าในปี 2566 นอกเหนือจากเทรนด์เทคโนโลยีแล้ว เรื่องของความยั่งยืนจะเป็นพื้นฐานที่ทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญและขับเคลื่อนอย่างจริงจัง เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบ ข้อปฏิบัติ และกติกาสากลที่มุ่งเป้าร่วมมือกันดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งต้องตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้บริโภคที่อยากเห็นภาคธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และพร้อมสนับสนุนแบรนด์สินค้ารักโลกอย่างเต็มกำลัง


ผลสำรวจของการ์ทเนอร์ยังบอกอีกด้วยว่า แม้แต่ผู้บริหารองค์กรด้านไอทียังต้องปรับโฟกัสในการทำธุรกิจให้อยู่บนพื้นฐานของความยั่งยืน หรือ Sustainability เพราะมองว่าการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมกำลังเป็นประเด็นใหญ่อันดับต้น ๆ ที่นักลงทุนให้ความสำคัญ รองจากเรื่องผลกำไรและรายได้ของธุรกิจ นั่นทำให้องค์กรต้องหันมาวางกลยุทธ์เพื่อขานรับกับโจทย์ด้านความยั่งยืน ทำให้นับจากนี้เราอาจได้เห็นองค์กรด้าน IT หันมาใส่ใจกับการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของผลิตภัณฑ์ เพื่อส่งมอบโซลูชันด้านความยั่งยืนให้กับลูกค้า


นอกจากนี้ DMNews เว็บไซต์ข่าวสารด้านการตลาดก็ได้นำเสนอบทความ “5 Global Trends Impacting Digital Marketing in 2023” ว่าด้วยเทรนด์การตลาดปีล่าสุด ที่ Sustainability Trend หรือเทรนด์ความยั่งยืนเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่น่าจับตามอง จากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนคนรุ่นใหม่ที่กำลังเป็นผู้บริโภคกลุ่มหลักในตลาด ผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้ความสำคัญอย่างมากกับเรื่องสิ่งแวดล้อม และคาดหวังให้ธุรกิจหรือแบรนด์มีการขับเคลื่อนด้าน ESG อย่างจริงจัง ส่งผลให้แบรนด์สินค้าต้องตื่นตัวและปรับเปลี่ยนไปสู่ความยั่งยืนเพื่อครองใจผู้บริโภค


Gen Z: The Sustainability Generation พลังที่ผลักดันเรื่องความยั่งยืน

เราต่างทราบกันดีกว่า คนกลุ่ม Gen Y หรือผู้ที่มีอายุ 27 - 41 ปี คือประชากรกลุ่มใหญ่ที่มีรายได้และกำลังซื้อค่อนข้างสูง ข้อมูลจาก MSCI ESG Research LLC ระบุว่า ร้อยละ 95 ของคนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญกับการลงทุนอย่างยั่งยืน พวกเขาจะมองหาการลงทุนในธุรกิจที่ดำเนินตามหลัก ESG แต่ด้วยกระแสการเปลี่ยนแปลงของประชากร ประชากรกลุ่ม Gen Z ก็เริ่มเติบโตและเข้ามามีบทบาท สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับแวดวงธุรกิจมากขึ้น

…………………
SCGC คือหนึ่งในองค์กรที่มุ่งดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG มาอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม (Environmental) รับผิดชอบต่อสังคม (Social) และยึดมั่นในหลักบรรษัทภิบาล (Governance) ขณะเดียวกันก็พร้อมเป็นต้นแบบด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามเป้าหมาย SDGs หรือ Sustainability Development Goals ขององค์การสหประชาชาติ

SCGC มีผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากรายงานการดำเนินการด้านความยั่งยืน > อ่านเพิ่มเติม
…………………

Gen Z  หรือผู้ที่มีอายุ 11 - 26 ปี คือคลื่นลูกต่อไปที่จะมาสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับโลก พวกเขาคาดหวังให้ธุรกิจดำเนินกิจการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และมีความตระหนักเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมาก ข้อมูลจาก Deloitte ระบุว่า คน Gen Z ตื่นตัวในการปรับพฤติกรรมไปสู่ความยั่งยืนมากกว่าคนกลุ่มอื่น กว่า 50% เลือกที่จะลดจำนวนการซื้อ และ 45% ตัดสินใจหยุดซื้อหรือสนับสนุนแบรนด์สินค้าที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือมีข้อน่ากังวลเกี่ยวกับเรื่องจริยธรรมและความยั่งยืน มากกว่าไปกว่านั้น จากข้อมูลของ First Insight และ Baker Retailing Center ได้สำรวจพบว่า ชาว Gen Z ชื่นชอบสินค้ารักโลก มากกว่าสินค้าแบรนด์เนมอีกด้วย เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า กระแสการเปลี่ยนแปลงของประชากรส่งผลอย่างมากต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ และเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่จะนำพาโลกไปสู่ความยั่งยืน พร้อมเอาชนะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ


อาจกล่าวได้ว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร สะท้อนความเป็นไปของอนาคตโลกเราได้เป็นอย่างดี เมื่อผู้บริโภคแต่ละช่วงวัยเริ่มตระหนักเรื่องความยั่งยืนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเทรนด์แห่งปีที่ธุรกิจไม่อาจนิ่งเฉย และต้องปรับเปลี่ยนไปเพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้กับโลก องค์กรที่มีความพร้อมและสามารถปรับตัวได้ก่อน ก็จะครองใจผู้บริโภค นำมาซึ่งผลกำไรในระยะยาวสำหรับธุรกิจ


Is this article useful ?