รายงานการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (United Nations Conference on Trade and Development: UNCTAD) ระบุว่า “มีการประเมินไว้ว่ากว่าร้อยละ 40 ของพลาสติกถูกใช้งานเพื่อเป็นบรรจุภัณฑ์” อายุการใช้งานที่สั้นของวัสดุมหัศจรรย์ดังกล่าวซึ่งเป็นผลจากการออกแบบที่ไม่ได้เอื้อต่อการนำกลับมาใช้ซ้ำ รวมถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของการขาดแคลนอุปกรณ์และระบบสำหรับการจัดการวัสดุที่ใช้งานแล้วเหล่านี้ซึ่งรวมถึงขยะพลาสติกชนิดอื่น ทำให้พลาสติกกลายมาเป็นสาเหตุสำคัญที่สร้างผลกระทบให้กับสิ่งแวดล้อม มีพลาสติกใช้แล้วเพียงร้อยละ 9 เท่านั้นที่ถูกรีไซเคิล โดยส่วนใหญ่จะถูกนำไปทิ้งในหลุมฝังกลบหรือไม่ก็เผาเพื่อเป็นพลังงาน ซึ่งทางเลือกสุดท้ายนั้นเป็นอีกหนึ่งในต้นตอสำคัญของการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ สาเหตุหลักของการเกิดวิกฤตสภาพภูมิอากาศของโลกเรา
ในประเทศไทยพบว่า ในปี 2561 มีขยะจากบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั่วประเทศประมาณร้อยละ 65.3 ที่มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง1 เพื่อคลี่คลายและหาทางออกให้กับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมดังกล่าว จำเป็นต้องมีมาตรการและแนวทางการแก้ไขที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ ร่วมกับการบูรณาการจากทุกภาคส่วนที่อยู่ในห่วงโซ่คุณค่า ที่สำคัญต้องมีการรื้อสร้างระบบคิดอย่างจริงจัง
เศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy คือ โอกาสที่จะช่วยให้เราสามารถใช้สอยทรัพยากรธรรมชาติได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ได้เป็นแต่การใช้ทรัพยากรเหล่านี้ให้หมดไป โซลูชันที่เป็นขั้วตรงข้ามกับโมเดลเศรษฐกิจแบบเดิมที่เน้นการใช้แล้วทิ้ง ช่วยทำให้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดไม่สูญหาย โดยพวกมันจะถูกหมุนเวียนใช้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ที่สำคัญจะไม่ก่อให้เกิดของเสียใด ๆ ตกค้างจนก่อให้เกิดผลกระทบต่อทั้งคุณภาพของสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ของคนในสังคม3
เอสซีจี เคมิคอลส์ หนึ่งในบริษัทปิโตรเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับประเทศและของภูมิภาค ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาพลาสติกใช้แล้วที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง จนกลายเป็นภัยคุกคามระบบนิเวศและชุมชนที่ต้องเร่งหาวิธีแก้ไข บริษัทได้บูรณาการหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เข้าเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ โดยหนึ่งในผลิตผลสำคัญจากความมุ่งมั่นดังกล่าว ก็คือ SCG GREEN POLYMER™ โซลูชันนวัตกรรมพลาสติกที่ตอบโจทย์การใช้งาน และส่งเสริมการดูแลสิ่งแวดล้อมใน 4 ด้าน สำคัญ ได้แก่ Reduce การลดการใช้ทรัพยากร, Recyclable การออกแบบเพื่อให้รีไซเคิลได้, Recycle การนำกลับมาใช้ใหม่ และ Renewable การใช้ทรัพยากรหมุนเวียน
SMX™ Technology
ด้วยนวัตกรรมในการผลิตเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงจาก SMX™ Technology ทำให้สามารถผลิตเม็ดพลาสติกที่มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น จึงช่วยทำให้ลดความหนาของชิ้นงานลงได้แต่ยังมีความแข็งแรงอยู่ดังเดิม ซึ่งนอกจากจะทำให้ช่วยลดการใช้ทรัพยากรอย่างเม็ดพลาสติกลงได้แล้ว ยังทำให้ชิ้นงานมีน้ำหนักเบาลง ส่งผลให้สามารถลดพลังงานที่ใช้ในกระบวนการขนส่งลงได้ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงด้วยเช่นกัน เอสซีจี เคมิคอลส์ ยังได้วิจัยและพัฒนาเม็ดพลาสติก PE และ PP มาผลิตเป็นฟิล์มชั้นต่าง ๆ ในบรรจุภัณฑ์ Mono Material ที่สามารถรีไซเคิลได้ โดยสิ่งสำคัญคือต้องสามารถคงคุณสมบัติการใช้งานที่เทียบเท่ากับบรรจุภัณฑ์เดิมให้ได้ นวัตกรรมพอลิเมอร์ทั้งชนิดนี้จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่ต้องการนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ผ่านการใช้งานแล้วกลับมารีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
High Quality Post-Consumer Recycled Resin: PCR
เม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง (High Quality Post-Consumer Recycled Resin: PCR) เป็นหนึ่งในนวัตกรรมภายใต้โซลูชัน “การนำกลับมาใช้ใหม่” ด้วยสูตรเฉพาะของเอสซีจี เคมิคอลส์ และเครือข่ายในการรวบรวมขยะจากครัวเรือน ทำให้สามารถเปลี่ยนขยะให้เกลายเป็นเม็ดพลาสติก PCR ชนิด HDPE คุณภาพสูงได้ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปสู่แหล่งที่มาของขยะที่ถูกนำมาใช้ได้ สอดคล้องกับมาตรฐานระดับโลกอย่าง Global Recycle Standard (GRS) นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ทดแทนเม็ดพลาสติกใหม่ได้ตั้งแต่ 25% – 100% ตอบโจทย์นโยบายความยั่งยืนของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก จึงนับได้ว่าเป็นการก้าวล้ำออกมาจากพัฒนานวัตกรรมพลาสติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบเดิม ๆ ได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ เอสซีจี เคมิคอลส์ ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี Advanced Recycling ซึ่งสามารถเปลี่ยนพลาสติกใช้แล้วเป็นวัตถุดิบตั้งต้นสำหรับโรงงานปิโตรเคมี ซึ่งสามารถนำกลับมาผลิตเม็ดพลาสติกใหม่ ด้วยการใช้สารเร่งปฏิกิริยาทำให้กระบวนการรีไซเคิลมีอุณหภูมิต่ำ จึงช่วยลดการใช้พลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยลดปัญหาการสะสมของปริมาณขยะพลาสติกในประเทศได้
“การนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ดูจะเป็นที่ทำได้ง่าย แต่เราก็ยังเจอความท้าทายหลายอย่างที่ต้องก้าวข้ามให้ได้ นอกเหนือจากการวิจัย คิดค้นและพัฒนาวัสดุชั้นสูงและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว เรายังต้องร่วมมือกันเพื่อจัดการโครงสร้างพื้นฐานที่ส่งเสริมการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพให้กับชุมชน ในส่วนต่อมาเราต้องบ่มเพาะค่านิยมและระบบที่สร้างผลตอบแทนให้เกิดขึ้นตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า เพื่อให้เกิดการคัดแยกและการจัดเก็บขยะที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีปริมาณขยะมูลฝอยจำนวนมากที่กระจายกระจายตกค้างอยู่ในหลายแห่ง และความท้าทายสุดท้ายที่สำคัญก็คือ การปนเปื้อนของมูลฝอยเหล่านี้ ที่ต้องใช้การคัดแยกและการทำความสะอาดเพิ่มเติมก่อนที่จะมีการนำพวกมันกลับมาใช้งานอีกครั้งหนึ่ง” ทีน่า โรวิค Global Director Circular Economy เอสซีจี เคมิคอลส์ กล่าว
Bio Compostable Compound
พลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Bio Compostable Compound) เป็นพลาสติกที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยต้นกำเนิดที่มาจากพืช ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สามารถปลูกใหม่ทดแทนได้ จึงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ และสามารถนำไปผ่านกระบวนการขึ้นรูปได้อย่างไม่ยุ่งยาก นอกจากนี้ยังผ่านมาตรฐานการรับรองระดับโลกอย่าง DIN CERTCO ประเทศเยอรมันนี และ Biodegradable Products Institute (BPI) ประเทศสหรัฐอเมริกา
เอสซีจี เคมิคอลส์ มุ่งหวังว่า SCG GREEN POLYMER™ ที่เรามุ่งมั่นวิจัย ค้นคว้า และพัฒนาขึ้นมานี้ จะเป็นรากฐานสำคัญที่ส่งเสริมของความก้าวหน้าด้านวัสดุศาสตร์ ขณะเดียวกันก็โซลูชันนวัตกรรมพอลิเมอร์นี้ก็จะช่วยดูแลและปกป้องสิ่งแวดล้อม และยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนในสังคมได้อย่างยั่งยืน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SCG GREEN POLYMER™ ติดต่อได้ที่ foodbev_pkg@scg.com
References:
- https://www.pcd.go.th/pcd_news/12628/
- https://supplychain.edf.org/resources/sustainability-101-packaging-waste-the-problem/
- https://archive.ellenmacarthurfoundation.org/explore/plastics-and-the-circular-economy