อีกหนึ่ง New Normal หรือ วิถีการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ก็คือ บริษัทให้ความสนใจกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาบูรณาการเข้ากับทุกองคาพยพในองค์กร แนวปฏิบัติดังกล่าวที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายนี้ มีจุดร่วมเหมือนกัน คือ เพื่อทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่องและเป็นปกติ (Business as Usual)
ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ก็เป็นอีกหนึ่งองค์กรชั้นนำระดับประเทศที่ “คิดเร็ว ทำไว” พัฒนาและประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อช่วยตอบโจทย์การทำงานของผู้เกี่ยวข้องในส่วนต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยส่งเสริมและสอดรับกับนโยบายทางสังคม ที่มุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนสามารถรองรับบริบทของสังคมดิจิทัลได้มากยิ่งขึ้น
ดิจิทัลโซลูชันเพื่อธุรกิจสำนักงาน
เอสซีจีซี ส่งเสริมให้มีการนำเทคโลโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยในกระบวนการทำงานต่าง ๆ ภายในสำนักงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้าสถานการณ์โรคระบาด หน่วยงานบางส่วนของบริษัทก็มีการใช้งานดิจิทัลแพลตฟอร์มเพื่อช่วยให้การทำงานดียิ่งขึ้น และเมื่อต้องมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับนโยบายทางสังคมตามแนวทางป้องกันการเกิดโรคระบาด ทั้งองค์กรก็สามารถปรับตัวและใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
การเปลี่ยนผ่านจากการทำงานที่ยึดโยงกับวิถีชีวิตรูปแบบเดิม ไปสู่กิจกรรมที่เกิดขึ้นในรูปแบบออนไลน์มากยิ่งขึ้น เช่น การประชุมทีมงานในระดับต่าง ๆ การยื่นขออนุมัติเอกสาร การทำธุรกรรมกับฝ่ายบัญชี หรือแม้แต่การจัดอีเวนต์สำคัญต่าง ๆ เช่น การทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) หรือการจัดงานเปิดตัวสินค้าหรือบริการใหม่ของบริษัท เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนทุกคนในเอสซีจีให้สามารถใช้ชีวิตการทำงานได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้การเปลี่ยนผ่านดังกล่าว ยังช่วยยกระดับและส่งเสริมความสามารถด้านดิจิทัลของคนในองค์กรด้วย
ดิจิทัลโซลูชันเพื่อโรงงาน
นอกจากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในสำนักงานแล้ว ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ยังได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ Internet of Things (IoT) ในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในหลากหลายรูปแบบ
หนึ่งในดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี เป็นผู้ริเริ่มก็คือ Digital Reliability Platform (DRP) ที่ทำการรวบรวมข้อมูลของเครื่องจักรทุกตัวในโรงงานและสายพานการผลิต โดยสามารถตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักรเหล่านี้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวเป็นนวัตกรรมที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างบริษัทกับพาร์ทเนอร์ระดับโลกหลายแห่ง เช่น AVEVA ผู้นําด้านวิศวกรรมและซอฟต์แวร์ด้านอุตสาหกรรม ช่วยแก้ปัญหาการบริหารประสิทธิภาพของเครื่องจักร (Asset Performance Management หรือ APM) แบบครบวงจร คาดการณ์สุขภาพอุปกรณ์ (Equipment Health) ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงาน และยกระดับมาตรฐานการบํารุงรักษาระหว่างหน่วยปฏิบัติการต่าง ๆ เพื่อขจัดเหตุขัดข้องที่ไม่คาดคิด
“นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี เพราะการบริหารจัดการให้เครื่องจักรสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีของ Digital Reliability Platform (DRP) เราจึงมั่นใจว่า จะสามารถขจัดความเสี่ยงที่เกิดจากเหตุขัดข้องที่ไม่คาดคิดได้ โดยได้เฟ้นหาพันธมิตร และ AVEVA เป็นเพียงบริษัทเดียวที่สามารถจัดหาระบบแก้ปัญหาได้แบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งด้านวิศวกรรม การปฏิบัติการ และการซ่อมบำรุง อีกทั้งยังได้ผนวกฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data ปัญญาประดิษฐ์ AI การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงทำนาย (Predictive Analytics) รวมเข้ากับการแก้ปัญหาที่ทำได้จริง ซึ่งจะช่วยผู้ปฏิบัติงานได้มากขึ้น และพัฒนาประสิทธิภาพอีกด้วย” นายมงคล เฮงโรจนโสภณ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กล่าว
ดิจิทัลโซลูชันเพื่อลูกค้าและคู่ค้า
ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ใช้ Digital Commerce Platform (DCP) เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลจากคำสั่งซื้อลูกค้าเข้ากับข้อมูลการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน ทำให้สามารถลดเวลาการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ถึง 70% โดยลูกค้าสามารถติดตามสถานะคำสั่งซื้อได้ทุกที่ทุกเวลา ตามรูปแบบการทำงาน New Normal และธุรกิจเคมิคอลส์ยังสามารถใช้ฐานข้อมูลจากระบบมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการบริหาร Value Chain ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ในส่วนของคู่ค้าเอง เอสซีจี นำโดยธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ได้ประยุกต์องค์ความรู้และทักษะความเชี่ยวชาญด้านโรงงานและสายงานการผลิต พัฒนา ROOTS แพลตฟอร์มที่จะช่วยให้การจัดซื้อสินค้าอุตสาหกรรมซึ่งต้องมีทั้งความละเอียด ความแม่นยำและความรวดเร็ว ให้สามารถดำเนินงานได้คล่องตัวมากขึ้น ช่วยลดระยะเวลาในกระบวนการจัดซื้อสินค้าได้มากกว่าร้อยละ 50 และที่สำคัญยังสามารถตรวจสอบราคาและสร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดิจิทัลโซลูชันเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ความใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมถือเป็นอีกหนึ่งพันธกิจสำคัญของเอสซีจี ที่มีการบริหารจัดการมาอย่างต่อเนื่องและสะท้อนออกมาให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมผ่านโครงการริเริ่มต่าง ๆ และในกระแสแห่งความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทมุ่งการดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิด ESG (Environmental, Social and Governance - ESG) และการตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) โดยนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาปรับใช้อย่างจริงจังและเข้มข้น
สำหรับแนวปฏิบัติด้านเทคโนโลยีดิจิทิลที่ถูกนำมาบูรณาการเพื่อช่วยแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจก็คือ KoomKah หรือ คุ้มค่า เว็บแอปพลิเคชันที่ยกระดับการบริหารจัดการธนาคารขยะ ทำให้สามารถจัดการกับข้อมูลได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมี ReadyPlastic แพลตฟอร์มการซื้อขายเม็ดพลาสติกนอนไพรม์ (Non-prime Plastic) จากภาคอุตสาหกรรมและเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (Recycled Plastic) โดยทั้งสองดิจิทัลโซลูชันช่วยส่งเสริมการหมุนเวียนใช้ทร้พยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
การปรับตัวด้านดิจิทัลเทคโนโลยีของ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี ช่วยส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพในการทำงานให้กับทุกคนในองค์กร ซึ่งถือเป็นบุคลากรสำคัญที่สร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ ตลอดจนส่งเสริมบทบาทขององค์กรในฐานะบริษัทชั้นนำระดับประเทศ ที่ประยุกต์ใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีเพื่อสร้างความต่อเนื่องและยั่งยืนทางธุรกิจตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ