วิกฤตน้ำ เป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เราเผชิญแทบทุกปี ส่งผลกระทบต่อวิถีการดำเนินชีวิต และระบบนิเวศ เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC พาถอดบทเรียนรวบรวมองค์ความรู้จากโครงการบริหารจัดการน้ำเพื่อชุมชน ซึ่งได้มุ่งมั่นดำเนินงานร่วมกับชุมชนมาตลอดระยะเวลานานกว่า 10 ปี สรุปเป็นแนวคิด ‘เก็บน้ำดี มีน้ำใช้’ ด้วยโมเดลจัดการน้ำ ‘2 สร้าง 2 เก็บ’ ส่งเสริมให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการน้ำด้วยตนเองอย่างยั่งยืน โดยนำภูมิปัญญาท้องถิ่นควบคู่กับการจัดการข้อมูลและนวัตกรรม เพื่อฟื้นแล้งสู่แหล่งน้ำ ป้องกันวิกฤตน้ำท่วม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิต และส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนเป็น “ชุมชนคนน้ำดี” อย่างยั่งยืน
SCGC ให้ความสำคัญและใส่ใจเรื่องทรัพยากรน้ำมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นจาก “โครงการสร้างฝายชะลอน้ำ” ซึ่งปัจจุบันได้สร้างฝายฯ ร่วมกับชุมชนเป็นจำนวนกว่า 7,500 ฝาย ในบริเวณรอบพื้นที่เขายายดาซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ครอบคลุมพื้นที่ 28,937 ไร่ กินพื้นที่บริเวณอำเภอเมืองและอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ที่แห่งนี้จึงเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญและเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของผู้คนมากมาย เป็นที่ตั้งของชุมชนราว 10 หมู่บ้าน ซึ่งชุมชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนผลไม้มาช้านาน ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน มังคุด สละ และลองกอง จึงจำเป็นต้องอาศัยน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรหาเลี้ยงชีพ ปีไหนที่มีสภาพแล้งจัด พืชผลทางการเกษตรย่อมเกิดปัญหา ส่งผลกระทบต่อรายได้ของครอบครัว และเศรษฐกิจของจังหวัดระยอง
น้ำทิพย์ สำเภาประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารแบรนด์และกิจการเพื่อสังคม เอสซีจี เคมิคอลส์ หรือ SCGC เล่าถึงการจัดการน้ำชุมชนว่า “ชุมชนในหลายพื้นที่ยังเผชิญกับปัญหาน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม หรือน้ำแล้ง SCGC ตระหนักดีว่า น้ำคือชีวิต เราจึงนำแนวคิดการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนสู่ชุมชน โดยเริ่มต้นที่ชุมชนรอบเขายายดา จ.ระยอง เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ปราชญ์ชุมชน SCGC และหน่วยงานราชการ นานกว่า 10 ปี เพื่อคิดหาวิธีฟื้นฟูผืนป่าและแหล่งน้ำชุมชน โดยมีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกวก.) ร่วมนำงานวิจัยท้องถิ่นประยุกต์ต่อยอดกับความรู้ภูมิปัญญาแบบดั้งเดิม เกิดเป็นองค์ความรู้การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนฉบับชุมชน ภายใต้แนวคิด ‘เก็บน้ำดี มีน้ำใช้’ ด้วยโมเดลการจัดการน้ำ “2 สร้าง 2 เก็บ” เน้นให้ชุมชนพึ่งพาตนเองด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรม รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนงานวิจัยท้องถิ่นเพื่อนำข้อมูลมาใช้ทำแผนจัดการน้ำในระดับชุมชน พร้อมส่งต่อองค์ความรู้จากชุมชนสู่ชุมชน จากรุ่นสู่รุ่น สร้างชุมชนคนน้ำดี เพื่อความยั่งยืน”
และเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ชุมชนบ้านมาบจันทร์ หนึ่งในชุมชนที่อยู่รอบเขายายดา ร่วมกับ SCGC ถอดบทเรียน “10 ปี กับการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ฉบับชุมชน” เพื่อเป็นอีกหนึ่งต้นแบบของการบริหารจัดการน้ำระดับชุมชนอย่างเป็นระบบ อันนำมาซึ่งความยั่งยืนทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และ ESG (Environmental, Social, Governance: ESG)
วันวานผ่านมากับปัญหาเรื่องน้ำไม่รู้จบ
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2531 เขายายดาถูกภัยคุกคามจากไฟป่าเผาอย่างต่อเนื่องจากการปรับเปลี่ยนพื้นที่ป่าเป็นพื้นที่ทำเกษตร ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ค่อย ๆ หายไปและถูกแทนที่ด้วยพื้นดินที่ถูกเปิดโล่ง ทำให้ความสามารถในการดูดซับน้ำของดินลดลง ก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเมื่อฝนตกหนักฉับพลัน และในภาวะหน้าแล้งก็ขาดน้ำหล่อเลี้ยงในดิน ส่งผลให้เกษตรกรโดยรอบได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการขาดน้ำเพื่อสร้างผลผลิตทางการเกษตร ส่งผลกระทบต่อรายได้ครัวเรือน และภาพรวมเศรษฐกิจของจังหวัดระยอง เนื่องจากภาคการเกษตรเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจหลักของจังหวัด
กว่า 20 ปี ที่ชุมชนรอบเขายายดา ต้องเผชิญหน้ากับภาวะน้ำแล้ง รับมือกันทุกรูปแบบ จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2550 ผู้ใหญ่วันดี อินทรพรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านมาบจันทร์ จังหวัดระยอง ในฐานะผู้นำชุมชน ผู้แบกรับความทุกข์ยากทั้งของตนเองและลูกบ้าน ได้ลุกขึ้นท้าทายกับสภาวะน้ำแล้งตามแนวคิดการจัดการน้ำชุมชนอย่างเป็นระบบจาก SCGC เพื่ออนาคตที่ดียิ่งกว่าของชาวมาบจันทร์ ผ่านมากว่า 10 ปีที่ได้เรียนผิด เรียนถูก จนเกิดเป็น “องค์ความรู้การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนฉบับชุมชน” ภายใต้แนวคิด ‘เก็บน้ำดี มีน้ำใช้’ ด้วยโมเดล “2 สร้าง 2 เก็บ”
‘เก็บน้ำดี มีน้ำใช้’ ด้วยโมเดล 2 สร้าง 2 เก็บ
แนวคิด ‘เก็บน้ำดี มีน้ำใช้’ ด้วยโมเดล 2 สร้าง 2 เก็บ ประกอบด้วย 4 ปัจจัยหลัก คือ
สร้างคน รวมพลังสร้างกลุ่มแกนนำที่ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม เสียสละ กล้าตัดสินใจ บนพื้นฐานของการรับฟังความคิดเห็น
สร้างกติกา ตั้งกติกาการใช้น้ำของชุมชนบนพื้นฐานของการเกื้อกูลและความเข้าใจ
เก็บน้ำ เก็บน้ำในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ด้วยการฟื้นฟูพื้นที่ต้นน้ำ และแหล่งเก็บน้ำของชุมชน เก็บน้ำไว้ให้มีใช้ในหน้าแล้ง นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสม
เก็บข้อมูล เก็บข้อมูลต้นทุนน้ำ เพื่อนำมาวิเคราะห์ทำนายสถานการณ์น้ำในอนาคตได้อย่างแม่นยำ พร้อมหาแนวทางการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของความรู้ข้อเท็จจริง แทนการคาดเดาตามความรู้สึก
ผู้ใหญ่วันดี อินทรพรม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านมาบจันทร์ กล่าวว่า “ทีมงานของ SCGC เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านเราเหมือนเป็นพี่น้อง สอนลูกบ้านเราให้รู้จักความสำคัญของการเก็บข้อมูลเพื่อบริหารจัดการน้ำ ตั้งแต่การทำผังน้ำ ทำแผนที่ในหมู่บ้านว่ามีลำธารกี่เส้น มีบ่อกี่แห่ง นอกจากนี้ ในทุกเช้าเราต้องจดบันทึกว่าวันนี้อุณหภูมิเท่าไหร่ น้ำระเหยเท่าไหร่ ฝนตกเท่าไหร่ เท่ากับว่าตอนนี้ชุมชนของเราเป็นนักวิจัยกันหมดแล้ว”